รวบ “โอปป้า” หนีหมายจับเว็บพนัน กบดานในไทย
วันที่ 19 มิ.ย. 2566 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. แถลงจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 3 คดี คดีแรก บก.ตม.3 รวบ โอปป้า Overstay หนีหมายจับทำเว็บพนัน มากบดานอยู่ในประเทศไทย 1,582 วันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกสืบสวนปราบปราม ตรวจสอบคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พบนายคิม (นามสมมติ) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 35 ปี มีท่าทางพิรุธ จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ
และได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ ตม. เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2561 ได้รับการตรวจลงตราประเภท ผ.ผ.90 ครบกำหนดอนุญาต 31 ม.ค.2562 ซึ่งอยู่เกินกำหนดอนุญาตแล้ว จำนวน 1,582 วัน จากการตรวจสอบข้อมูล ยังพบว่า นายคิม เป็นผู้ต้องหาตามหมายแดง (Red Notice) ขององค์กรตำรวจสากล (Interpol) ที่สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ต้องการตัว ในข้อหาร่วมกับผู้สมรู้ร่วมคิด จัดให้มี การเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งมีเงินหมุนเวียน 5,919,442,923 วอน (163 ล้านบาท) จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดี
คดีที่สอง สตม. ตามรวบหนุ่มแดนโสมขาว Overstay และมีหมายจับตำรวจสากลฉ้อโกงประชาชน บก.ตม.4 ร่วมกับ บก.สส.สตม. จับกุมนายมุน (นามสมมติ) สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 48 ปี ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)
สืบเนื่องจากจากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ทราบว่า นายมุน ที่กระทำความผิดฉ้อโกงหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศเกาหลีใต้ โดยอ้างว่าตนเองจะได้รับมรดกแต่ต้องจ่ายเงินให้ศาลก่อน แล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้ยืมสำหรับใช้ต่อสู้คดีจำนวน 66 ล้านวอน และโทรหลอกลวงผู้เสียหายขอยืมบัตรเครดิตไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี จำนวน 17 ล้านวอน รวมมูลค่าความเสียหาย 83 ล้านวอน (2.2 ล้านบาท) และเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเป็นผู้ต้องหาตามหมายแดง (Red Notice) ขององค์กรตำรวจสากล (Interpol) ที่สาธารณรัฐเกาหลี ต้องการตัวในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน จึงได้ทำการตรวจสอบในระบบสารสนเทศ ตม. ทราบว่า นายมุน ได้ยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักร ประเภทภรรยาไทย ที่ ตม.จ.บุรีรัมย์ โดยได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 18 พ.ค.66 ซึ่งอยู่เกินกำหนดอนุญาตแล้ว โดยย้ายมาพักอาศัยที่ย่าน ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบจนพบตัวนายมุน ก่อนควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดี
คดีสุดท้าย บก.สส.สตม. ร่วมกับ ป.ป.ส. จับกุมนายนัม (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี และ นายจัง (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) หลังหนีคดียาเสพติดซุกอยู่ไทย
โดนก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี ได้ประสานมายัง ป.ป.ส. และ บก.สส.สตม. ขอความร่วมมือ ให้สืบสวนติดตามตัว นายนัม (นามสมมติ) และนายจัง (นามสมมติ) ชาวเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐเกาหลี ผู้ต้องหาในคดีลักลอบนำเข้ายาเสพติด หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย เพื่อนำกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐเกาหลี
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือน มี.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ศุลกากรอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี ตรวจพัสดุ EMS พบยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 172.18 กรัมมูลค่า 17,218,000 วอน (ประมาณ 460,000 บาท) จึงนำส่งสำนักงานอัยการสูงสุดสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อดำเนินคดี จากนั้นขยายผลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้จำนวน 3 คน จากการสอบสวนพบว่าผู้จัดหายาเสพติดดังกล่าวคือ นายนัม และ นายจัง ที่อยู่ในประเทศไทย
หลังได้รับข้อมูลทาง บก.สส.สตม. จึงได้สืบสวนจนพบว่านายนัม เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2566 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ประเภท ผ.ผ.90 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 12 พ.ค.2566 ส่วนนายจังเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2565 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราช อาณาจักรถึงวันที่ 17 ก.ย.2565 ปัจจุบันทั้งสองคน อยู่โดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว (Overstay) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้สืบสวนติดตามตัว
จนกระทั้งทราบว่า ทั้งสองคนเข้าพักอาศัยในย่านถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง กรุงเทพฯ จึงได้ไปประสานขอเข้าตรวจค้น จนพบตัวนายนัม และนายจัง และจากการตนงจสอบหนังสือเดินทางการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงได้แจ้งข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พงส.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี