จักรยานไทย รอลุ้นตั๋วใบที่ 5 โควตาโอลิมปิกจาก "จาย" ในประเภทลู่
สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย รอลุ้นตั๋วใบที่ 5 โควตาโอลิมปิก 2024 จาก จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ในประเภทลู่
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) กำหนดให้มีการเก็บคะแนนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสผลปรากฏว่านักปั่นไทยก็สร้างประวัติศาสตร์คว้าโควตามาแล้ว 4 ที่นั่ง ประกอบด้วย ประเภทถนน 3 ที่นั่ง ได้แก่ โรดเรซชายและหญิง และ ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บคะแนนสะสมโลก World Ranking ประเภทถนนฤดูกาล 2023 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมถึงประเภทบีเอ็มอ็กซ์เรซซิงชายอีก 1 ที่นั่ง จากการที่ “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ ไปคว้าแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังมีเป้าหมายคว้าโควตาเพิ่มอีก 1 ที่นั่งจาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ในประเภทลู่ รายการคีริน
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า สำหรับ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ยังคงต้องเก็บคะแนนสะสมไปจนถึงเดือนเมษายน 2567 โดยยังคงมีรายการเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิก หรือ Olympic Qualification Ranking อีก 4 รายการที่ยูซีไอกำหนดไว้ ประกอบด้วย การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ เนชั่นส์ คัพ 2024 จำนวน 3 สนาม ดังนี้ สนามแรกที่เมืองอดีเลด ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2567 สนาม 2 ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง วันที่ 15-17 มีนาคม 2567 และสนามสุดท้ายที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา 12-14 เมษายน 2567 นอกจากนี้ยังมีรายการใหญ่ที่ต้องเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุดคือการแข่งขันประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 21-26 กุมภาพันธ์ 2567
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่าสำหรับสถานการณ์คะแนนสะสมโอลิมปิกควอลิฟิเคชั่นล่าสุด ในประเภทคีริน ไทยอยู่ในอันดับ 13 มีคะแนนสะสม 1,731.5 คะแนน ซึ่งหากตัดคะแนนโควตาโอลิมปิก ณ ปัจจุบัน ไทยจะควอลิฟายในประเภทคีรินทันที และก็จะได้สิทธิ์แข่งขันในรายการสปรินท์บุคคลโดยอัตโนมัติ โดยในช่วงเวลาการเก็บคะแนนคัดเลือกที่เหลืออยู่ นักปั่นไทยจะต้องพยายามเข้ารอบลึก ๆ เพื่อเก็บคะแนนสะสมให้ได้มากที่สุดเพื่อขยับอันดับขึ้นไปอีก หรืออย่างน้อยที่สุด รักษาระดับของคะแนนสะสมไว้ไม่ให้ชาติคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นแคนาดา คาซัคสถาน ไต้หวัน และแอฟริกาใต้ที่มีคะแนนไล่หลังมาประมาณ 200 คะแนนไล่ตามมาทัน
“ในศึกเนชั่นส์คัพ ตัวหลักก็คือ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ที่จะตระเวนไปแข่งขันทั้ง 3 สนาม โดยมีเป้าหมายเข้าให้ถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้อย่างน้อย 2 สนาม ในขณะที่การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศอินเดีย ไทยเรามีโอกาสส่งนักปั่นในรายการคีรินเพิ่มอีก 1 คน ซึ่งก็เท่ากับว่าเราจะมีโอกาสเก็บคะแนนเพิ่มได้มากกว่าจายเพียงคนเดียว ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ตั้งความหวังว่าจะสามารถผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ประเภทลู่ให้ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ในคราวเดียวมากถึง 5 ที่นั่ง”
พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนในประเภทเสือภูเขา ต้องยอมรับว่าโอกาสที่ทีมเสือภูเขาไทยจะควอลิฟายในระบบคะแนนสะสมโอลิมปิก หรือ โอลิมปิก แรงกิ้ง มีไม่มากนักเนื่องจากการแข่งขันส่วนใหญ่จะมีในภูมิภาคยุโรป แต่อย่างไรก็ตาม นักปั่นเสือภูเขาไทยก็ยังมีโอกาสลุ้นจากโควตาแชมป์ทวีป ซึ่งการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคมนี้ ในรายการครอสคันทรี่โอลิมปิก ทีมนักกีฬาไทยจะต้องพยายามทำอันดับให้ดีที่สุด โดยเงื่อนไขของการควอลิฟายก็คือแชมป์เอเชียจะควอลิฟายโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม หากชาติที่ควอลิฟายจากคะแนนสะสมโอลิมปิกที่จะคัดเอาชาติที่มีคะแนนสะสม 1-19 ได้โควตาไปปารีสเกมส์ 2024 แล้ว หากได้แชมป์เอเชีย ก็จะต้องสละโควตาแชมป์ทวีปให้แก่ชาติที่ได้อันดับรองลงไป ดังนั้น นักปั่นทีมชาติไทยจะต้องพยายามทำอันดับให้ดีที่สุด เพื่อโอกาสในการลุ้นโควตาเสือภูเขาครั้งแรกในประวัติศาสตร์กีฬาจักรยานไทย